Share to: share facebook share twitter share wa share telegram print page

End correction

End correction ไม่ว่าคลื่นก่อตัวจากตัวกลางหรือวัตถุ (ท่อออร์แกน) ซึ่งมีปลายปิดหรือเปิด มีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในการก่อตัวของคลื่น นั่นคือ คลื่นอาจไม่ได้เริ่มก่อตัวจากปลายของวัตถุ ทว่าก่อตัวก่อนปลายของวัตถุ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดเมื่อศึกษาหลักทฤษฎี ฉะนั้นในบางครั้ง end correction จึงจำเป็นต่อการศึกษาคุณสมบัติของคลื่น end correction ขึ้นอยู่กับรัศมีของวัตถุ

ท่อเสียงอย่างท่อออร์แกน มาริมบา หรือฟลูต สั่งพ้องที่ระดับเสียงหรือความถี่หนึ่ง ๆ ท่อที่ยาวกว่าจะสั่นพ้องที่ความถี่ต่ำกว่า สร้างเสียงที่ทุ้มกว่า รายละเอียดของการสั่นพ้องของเสียงถูกสอนในวิชาฟิสิกส์ของโรงเรียนระดับประถมศึกษาหลายโรงเรียน ในท่ออุดมคติความยาวคลื่นเสียงแปรผันตรงกับความยาวท่อ ท่อปลายปิด (ปลายท่อเปิดหนึ่งข้าง) สร้างเสียงที่มีความยาวคลื่นเป็นสี่เท่าของความยาวท่อ ท่อปลายเปิด (ปลายท่อเปิดทั้งสองข้าง) สร้างเสียงที่มีความยาวคลื่นเป็นสองเท่าของความยาวท่อ ดังนั้นเมื่อ Boomwhacker ซึ่งมีปลายทั้งสองข้างเปิดถูกสวมฝาที่อีกข้างหนึ่ง ระดับเสียงที่สร้างโดยท่อจะลดลงหนึ่งคู่แปด[1]

การพิจารณาดังกล่าวใช้ได้กับเพียงท่อในอุดมคติซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นศูนย์ เมื่อออกแบบออร์แกนหรือ Boomwhacker ต้องพิจารณาเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อด้วย ในวิชาว่าด้วยเสียง end correction คือระยะทางสั้น ๆ ที่นำมาเพิ่มกับความยาวจริงของหลอดกำทอน เพื่อที่จะคำนวณความถี่เรโซแนนซ์ของท่อได้อย่างแม่นยำ ระดับเสียงของท่อจริงจะต่ำกว่าระดับเสียงที่คาดการณ์โดยทฤษฎีอย่างง่าย ท่อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางคงตัวค่อนข้างจะมีความยาวท่อในทางเสียงยาวกว่าความยาวจริง

รากฐานทางทฤษฎีสำหรับการคำนวณ end correction คือ การแผ่พลังงานอิมพีแดนซ์ทางเสียงของลูกสูบกลม อิมพีแดนซ์นี้แสดงอัตราส่วนระหว่างความดันเชิงเสียงลูกสูบกับอัตราการไหลที่ถูกเหนี่ยวนำโดยลูกสูบ โดยทั่วไปจะสมมติว่ามีความเร็วลมสม่ำเสมอทั่วทั้งปลายท่อ แม้เป็นการประมาณที่ดีแต่ก็ไม่ใช่ค่าที่แท้จริง เนื่องจากความหนืดลมจะลดอัตราการไหลของอากาศในชั้นขอบเขตที่ใกล้กับพื้นผิวท่อมาก ๆ ฉะนั้นลำอากาศข้างในท่อจะถูกโหลดเนื่องจากการแผ่พลังงานเสียง จำเป็นต้องเพิ่มความยาวเพิ่มจากความยาวปกติเพื่อที่จะคำนวณความถี่ธรรมชาติของระบบท่อ

end correction ใช้สัญลักษณ์ หรือ ในบางครั้ง ในท่อออร์แกนตำแหน่งปฏิบัพจะไม่ก่อตัว ณ ตำแหน่งปลายท่อข้างที่เปิด ในทางตรงข้ามปฏิบัพก่อตัวห่างออกไปเล็กน้อยด้วยระยะทาง จากปลายท่อ สามารถคำนวณได้ ดังนี้

สำหรับท่อปลายปิด (ปลายท่อเปิดหนึ่งข้าง)

และสำหรับท่อปลายเปิด (ปลายท่อเปิดทั้งสองข้าง)

เมื่อ คือ รัศมีชลศาสตร์ (hydraulic radius)[ไม่แน่ใจ ] ของปากท่อ และ คือ เส้นผ่านศูนย์กลางชลศาสตร์ (hydraulic diameter) ของปากท่อ[2]

ตัวเลข end correction ที่แม่นยำขึ้นอยู่กับตัวเลของค์ประกอบทางเรขาคณิตของท่อ ในปี 1871 Lord Rayleigh เป็นผู้ทดลองที่ตีพิมพ์ค่าคงตัวนี้เป็นคนแรก นั่นคือ [ต้องการอ้างอิง] การทดลองอื่น ๆ ได้ผลลัพธ์ประมาณ [3] และ [4] end correction ของท่อกระบอกในอุดมคติคำนวณได้ โดย Levine and Schwinger[5]

อ้างอิง

  1. End Correction at a Flue Pipe Mouth
  2. Ruiz, Michael J. "Boomwhackers and end-pipe corrections." The Physics Teacher 52.2 (2014): 73-75. http://www.mjtruiz.com/publications/2014_boomwhackers.pdf เก็บถาวร 2023-05-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  3. Bate, A.E. (1930). "LX. (i.)The end-corrections of an open organ flue-pipe; and(ii.)The acoustical conductance of orifices". The London, Edinburgh, and Dublin Philosophical Magazine and Journal of Science. 10 (65): 617–632. doi:10.1080/14786443009461614. ISSN 1941-5982.
  4. Bate, A.E. (1930). "LX. (i.)The end-corrections of an open organ flue-pipe; and(ii.)The acoustical conductance of orifices". The London, Edinburgh, and Dublin Philosophical Magazine and Journal of Science. 10 (65): 617–632. doi: 10.1080/14786443009461614. ISSN 1941-5982.
  5. Levine, Harold; Schwinger, Julian (1948). "On the Radiation of Sound from an Unflanged Circular Pipe". Physical Review. 73 (4): 383–406. doi:10.1103/PhysRev.73.383. ISSN 0031-899X
Kembali kehalaman sebelumnya